ลิเวอร์พูลเต็มสูบ ซาลาห์นำ3หน้าซัด,เรอัลมาดริดจัด “เบนเซม่า” ยิงศึก ชปล.
ลิเวอร์พูลเต็มสูบ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึึกโดยจะส่ง
ลิเวอร์พูลเต็มสูบ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่
ลิเวอร์พูลเต็มสูบ ลงประสานคมปิดสกอร์เกมพบ “ราชันขุดขาว” เรอัล มาดริด ที่มี คาริม เบนเซม่า พร้อมพังตาข่าย ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก)
วันอังคารที่ 6 เม.ย. ศกนี้ (เวลา 02.00 น.)
ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก)
วันอังคารที่ 6 เมษายน 2564 (เวลา 02.00 น.)
เรอัล มาดริด – ลิเวอร์พูล
สนาม : เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่
ซีเนอดีน ซีดาน เทรนเนอร์ เรอัล มาดริด พาทีมมาเล่นรอบนี้ หลังเอาชนะ อตาลันต้า ด้วยประตูรวม 2 นัด 4-1 ก่อนชนะ เออิบาร์ 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 4 นัดติด
ความพร้อมเกมนี้ ที่แน่ ๆ “ซิซู” จะชวดใช้งาน เซร์คิโอ รามอส กองหลังกัปตันทีมคนสำคัญที่เจ็บน่องอยู่ก่อนแล้ว รวมไปถึง เอแด็น อาซาร์, ดานี่ การ์บาฆาล และ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ที่ยังไม่สมบูรณ์
ส่วนพวกตัวหลักที่ถูกพักไว้ในเกมล่าสุด ทั้ง ราฟาแอล วาราน, โทนี่ โครส และ วินิซิอุส จูเนียร์ ก็พร้อมคัมแบ็กทั้งหมด
ขณะที่แกนหลักขาประจำรายอื่น ๆ เช่น ติโบต์ กูร์กตัวส์, เอแดร์ มิลิเตา, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ และ คาริม เบนเซม่า พร้อมบู๊เหมือนเดิม
เยอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ลิเวอร์พูล พาทีมเข้ารอบนี้ หลังฝ่าด่านไลป์ซิกมาแบบสบาย ๆ ด้วยประตูรวม 2 นัด 4-0 ก่อนถล่มอาร์เซน่อล 3-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 3 นัดติด
สภาพทีมล่าสุด “คล็อปป์” ไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม ขาดแค่พวกที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โฌแอล มาติป, โจ โกเมซ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค
การจัดทัพน่าจะมีการปรับเล็กน้อย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์ตัวหลักที่ถูกพักไว้ ก็น่าจะกลับมาออกสตาร์ทแทน เจมส์ มิลเนอร์
ทว่าในรายของดิโอโก้ โชต้า แนวรุกโปรตุกีส แม้จะเป็นซูเปอร์ซับทำคนเดียว 2 ประตูในเกมก่อน แต่ก็น่าจะเริ่มต้นบนม้านั่งสำรองเหมือนเดิม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (3-5-2) : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – เอแดร์ มิลิเตา, ราฟาแอล วาราน, นาโช่ เฟร์นานเดซ – ลูกัส บาซเกซ, ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – วินิซิอุส จูเนียร์, คาริม เบนเซม่า
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ติอาโก้ อัลกานตาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)
เกร็ดที่น่าสนใจก่อนเกม
– ทั้งสองทีมพบกันครั้งล่าสุดคือ รอบชิงชนะเลิศ ที่เคียฟ เมื่อปี 2018 โดยเกมนั้น เรอัล มาดริด เอาชนะ ไปได้ 3-1
– เรอัล มาดริด ผ่านเข้ามาเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศได้ทั้งหมด 36 ครั้ง (ชนะ 29 แพ้ 6) ซึ่งมากกว่าทีมไหนๆในยุโรปที่สามารถทะลุเข้ามาได้
– แต่ว่า ราชันชุดขาว ไม่สามารถเอาชนะทีมจากอังกฤษได้เลย 2 นัดหลังที่เล่นในบ้าน โดยซีซั่นที่แล้วก็แพ้ให้กับ แมนฯ ซิตี้ 0-1 และอีกเกมอีกเสมอกับ สเปอร์ส 1-1
– เกมที่แพ้ให้กับ แอต.มาดริด ในรอบ 16 ทีมปีที่แล้ว เป็นการพ่ายตกรอบครั้งที่ 3 ของทีม หงส์แดง ซึ่งสถิติที่เจอกับทีมจาก ลา ลีกา พวกเขาชนะได้ถึง 9 และแพ้ 3 ถ้ารวมรอบชิงด้วยแล้วมีสถิติอยู่ที่
ชนะ 11 แพ้ 5
– แม้ในลีกจะเสียประตูง่ายแต่ในรายการนี้ 7 จาก 9 เกมหลังสุดในแชมเปี้ยนส์ลีก ลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด