6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 30
6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 30 เกม พรีเมียร์ลีก กลับมาฟาดแข้งอีกครั้งหลังหลีกทางให้โปรแกรมทีมชาติ โดยสัปดาห์นี้เข้าสู่เกมที่ 30 ในวันเสาร์ มีคู่บิ๊ก แมตช์ 2 คู่ ณ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม และ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ซึ่งจะมีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกันได้เลย
6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 30
” เชลซี-เวสต์บรอมฯ “
เชลซี ไม่แพ้ต่อ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เลยตลอด 7 นัดที่เจอกันใน พรีเมียร์ลีก (ชนะ 5 เสมอ 2) นอกจากสถิติที่เจอ “เดอะ แบ๊กกี้ส์” ยอดเยี่ยมแล้ว “สิงห์บลูส์” มีโอกาสที่จะเป็นทีมแรกที่สามารถเก็บคลีนชีตได้ในบ้านตัวเองภายใต้การทำงานของกุนซือตลอด 6 นัดแรกในบ้าน
อย่างไรก็ตาม เวสต์บรอมวิช เสียประตูเกมนอกบ้านไปแค่ 3 ลูกเท่านั้นตลอด 6 เกมเยือนหลังสุดในลีก
3 ประตูของ คัลลั่ม โรบินสัน ในซีซั่นนี้เกิดจากการยิงใส่ เชลซี ทั้งหมด
6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 30
” เลสเตอร์-แมนฯ ซิตี้ “
เลสเตอร์ ซิตี้ กำลังมองหาชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไป-กลับใน พรีเมียร์ลีก ให้ได้เป็นครั้งแรก
หนึ่งนักเตะของ “เดอะ ฟ็อกซ์” ที่ยิงใส่ แมนฯ ซิตี้ มากที่สุดคือ เจมี่ วาร์ดี้ โดยเจ้าตัวซัดไป 8 ประตูจากการลงเจอ “เรือใบสีฟ้า”
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เอาชนะเกมเยือนทุกรายการมาแล้ว 14 นัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติยอดเยี่ยมที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ
ขณะเดียวกัน แมนฯซิตี้ เสียประตูเกมเยือนไปแค่ 8 ลูกเท่านั้นในลีกซีซั่นนี้
“อาร์เซน่อล-ลิเวอร์พูล”
อาร์เซน่อล มองหาชัยชนะ ลิเวอร์พูล ในบ้านตัวเอง 2 ครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015
อเล็กซานเดร ลากาแซตต์ จะกลายเป็นผู้เล่น “เดอะ กันเนอร์ส” คนแรกนับตั้งแต่ โรแบร์ ปิแรส ทันทีที่ทำประตูใส่ ลิเวอร์พูล ได้ 3 นัดติดต่อกัน หากเจ้าตัวมีสกอร์ในนัดนี้
“หงส์แดง” บุกเอาชนะทีมในกรุง ลอนดอน 4 จาก 5 เกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นสถิติดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ปีนี้
นอกจากนี้ “เดอะ เร้ดส์” ยังวางเป้าที่จะคว้าชัยในถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2016 อีกด้วย
“นิวคาสเซิ่ล-สเปอร์ส”
ในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020-21 ไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่ทั้งทำประตูและเสียประตูในเกมเหย้าในนัดเดียวกันมากไปกว่า นิวคาสเซิ่ล หลังจากพวกเขาทำอย่างนั้นไป 11 นัด
นิวคาสเซิ่ล แพ้ 5 จาก 6 เกมหลังสุดที่เจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ยามที่เล่นใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค
แฮร์รี่ เคน มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้ว 43 ลูกจาก 40 นัดทุกรายการในฤดูกาลนี้(27 ประตู 16 แอสซิสต์) โดยขาดแค่ 2 ลูกเท่านั้นจะเทียบเท่าการมีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดในอาชีพต่อฤดูกาลที่เจ้าตัวเคยทำได้(41 ประตู 4 แอสซิสต์)
สเปอร์ส เอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ที่นี่ได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว 3-1 ภายใต้การทำทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งเป็นครั้งแรกของกุนซือโปรตุกีส ที่บุกกำราบ “สาลิกาดง” ได้ หลังจากก่อนหน้านั้นไม่เคยเอาชนะได้เลยในการเจอกัน 7 เกม(เสมอ 3 แพ้ 4)
“แมนฯ ยูไนเต็ด-ไบรท์ตัน”
บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีส่วนร่วมกับการทำประตูใส่ ไบรท์ตัน 4 ลูก( 3 ประตู 1 แอสซิสต์) จากการเจอกัน 2 เกม
“ปีศาจแดง” มองหาการไม่เสียประตูเกมที่ 5 ติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก ซึ่งหากทำได้จะนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2017 เลยทีเดียว
อย่างไรก็ดี ไบรท์ตัน ก็ยังมองหาชัยชนะ 3 เกมติดต่อกันในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2018 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น “เดอะ ซีกัลส์” ไม่เคยบุกเอาชนะ แมนยู ได้เลยในการออกไปเยือน 12 ครั้ง
“เอฟเวอร์ตัน-คริสตัล พาเลซ”
เอฟเวอร์ตัน ไม่แพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่ กูดิสัน พาร์ค มาแล้ว 12 นัดติด(ชนะ 6 เสมอ 6)
โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน กองหน้า “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ต้องการประตูด้วยลูกโหม่งแค่ลูกเดียวก็จะเทียบเท่าสถิติที่ ทิม เคฮิลล์ เคยทำไว้ 7 ลูก เมื่อฤดูกาล 2009/10
ในชัยชนะของ พาเลซ ที่มีเหนือ เอฟเวอร์ตัน 5 ครั้งนั้น มีถึง 4 ครั้งที่เกิดขึ้น ณ สนาม กูดิสัน พาร์ค
รอย ฮอดจ์สัน นายใหญ่ “ดิ อีเกิ้ลส์” ไม่เคยพาทีมไหนบุกเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้เลยจากการเจอกัน 9 ครั้ง (เสมอ 1 แพ้ 8) โดยที่ 7 ครั้งล่าสุดแพ้รวด