เกมพรีเมียร์ลีก เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกม ลิเวอร์พูล เยือน อาร์เซน่อล
เกมพรีเมียร์ลีก เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หวนกลับมาฟาดแข้งกันอีกครั้งโดย ลิเวอร์พูล
เกมพรีเมียร์ลีก ต้องพบกับศึกหนักในการเยือน อาร์เซน่อล ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันเสาร์ที่ 3 เมษายนนี้
ฟีร์มีโน่ โดยทัพ “หงส์แดง” คาดหวังอยากได้สามแต้มเพราะจะทำให้พวกเขาได้กลับมามีลุ้นอันดับท็อปโฟร์อีกครั้ง
แมตช์นี้ “เดอะ เร้ดส์” คงจะได้แนวรุกสี่ประสานกลับมาฟิตสมบูรณ์ทั้ง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดีโอโก้
โชต้า แต่ก็ต้องลุ้นว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมจะเลือกส่งแค่
สามคน หรือจะจัดหนักใส่สี่แข้งลงสนามพร้อมกัน
1. บ็อบบี้จอมหลอนอาร์เซน่อล
แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะมีปัญหาฟอร์มตกไปบ้างก็ตาม แต่หากมองอีกมุมหนึ่งผลงานของ “บ็อบบี้” ก็ไม่ได้เลวร้ายมากนัก และน่าจะเป็นผู้เล่นคีย์แมนที่สำคัญมากๆ ในเกมเยือนถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม ในวันเสาร์นี้
ดาวเตะเจ้าของเสื้อหมายเลข 9 มักจะมีสถิติที่ยอดเยี่ยมเวลาที่ทัพ “หงส์แดง” ปะทะกับ อาร์เซน่อล ไม่ว่าจะเกมเหย้าหรือเยือน และแน่นอนว่าหาก คล็อปป์ เลือกส่งนักเตะลงสนามเขาคงจะมีความมั่นใจเพราะเวลาที่พบ “เดอะ กันเนอร์ส” ฟอร์มมักจะโดดเด่นเสมอ
ยิ่งล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่า สตาร์ลูกหนังชาวบราซิเลียน ฟิตสมบูรณ์และลงซ้อมอย่างเต็มที่กับเพื่อนร่วมทีมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา งานนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงต้องวางแผนที่จะใช้งานเขาโดยอาจจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง หรือจะเลือกส่งแนวรุก 4 ประสานลงพร้อมกันก็ได้
เหตุผลที่ทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” รู้สึกแฮปปี้หาก ฟีร์มีโน่ ลงสนามก็คือสถิติของเขาในการดวลกับ อาร์เซน่อล เพราะนักเตะซัดไป 8 ประตูจาก 11 เกมพรีเมียร์ลีกที่ดวลกับยอดทีมแห่งกรุงลอนดอน รวมถึงการทำแฮตทริกที่แอนฟิลด์เมื่อเดือนธันวาคม 2018
ที่สำคัญการที่ ลิเวอร์พูล มี ฟีร์มีโน่ ลงเล่นพวกเขาแพ้ให้ “ปืนใหญ่” เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น โดยเกิดขึ้นเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ด้วยสกอร์ 1-2 แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาคว้าแชมป์ลีกแล้ว ก็เลยเล่นแบบไม่เน้นมากนัก
2. โชต้า ดาวยิงที่ขาดไม่ได้
หลังจากที่ไม่ได้ลงสนามมานาน 3 เดือน ตอนนี้ ดีโอโก้ โชต้า กลับมาฟิตสมบูรณ์จากอาการบาดเจ็บหัวเข่าแล้ว และการที่ได้นักเตะคืนสู่สนามทำให้ “เดอะ เร้ดส์” เริ่มมีผลงานที่อันตรายมากยิ่งขึ้น นับตั้งแต่ที่ฟอร์มหลุดไปตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสปีที่ผ่านมา
ดาวยิงจากแดนฝอยทอง คืนสนามพร้อมซัดประตูช่วยต้นสังกัดในเกมที่ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส หลังจากนั้นก็กลับไปรับใช้ทีมชาติโปรตุเกส พร้อมระเบิดฟอร์มสุดยอดซัด 3 ประตูจาก 2 เกมในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป
ตอนนี้ดูเหมือนหลายๆ สิ่งค่อยๆ กลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากได้รับบาดเจ็บหนัก แต่จากการฝึกซ้อมล่าสุด โชต้า ถูกจับแยกซ้อมเดี่ยวในขณะที่เพื่อนร่วมทีมซ้อมร่วมกัน ซึ่งนี่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า คล็อปป์ ต้องการระมัดระวังเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะอย่างมาก
สำหรับในเวลานี้ โชต้า กำลังเต็มไปด้วยความมั่นใจ ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมพบกับ อาร์เซน่อล วันเสาร์นี้ เพราะหากเช็คฟอร์มของแนวรุกทั้งหมดแล้ว ตอนนี้ต้องยอมรับว่า กองหน้าชาวโปรตุกีส มีฟอร์มที่ร้อนแรงที่สุดจริงๆ
3. วางใจ ฟิลลิปส์ คุมแนวรับต่อไป
วิกฤติเซนเตอร์แบ็กของลิเวอร์พูลในเวลานี้ดูเหมือนจะคลี่คลายไปได้ในระดับหนึ่งเมื่อ คล็อปป์ กล้าเสี่ยงใช้งาน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ จับคู่กับ โอซาน คาบัค ซึ่งทั้งสองคนก็ทำผลงานได้ดี และแน่นอนว่านี่คือสองแข้งที่จะได้ลงเล่นในเกมสำคัญวันเสาร์นี้
สำหรับ ฟิลลิปส์ ต้องบอกเลยว่าฟอร์มเซอร์ไพรส์จริงๆ เพราะเมื่อเดือนที่ผ่านมาเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 3 นัดในทุกรายการ ซึ่งในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่ ลิเวอร์พูล ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 2-0 นั้น เขาเล่นได้โดดเด่นจนถึงขั้นได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เลย แม้ว่าจะเป็นการลงเล่นเกมชิงถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นนัดแรกในชีวิตก็ตาม
ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ฟิลลิปส์ จะได้รางวัลแห่งความขยันหมั่นเพียร และความพยายาม ด้วยการได้รับผลโหวตมีคะแนนมากกว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โอซาน คาบัค ซึ่งทำให้เขาได้รับเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของทีมประจำเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้รับเกียรตินี้
การที่ คล็อปป์ ได้คู่เซนเตอร์แบ็กถาวรแบบนี้ส่งผลดีต่อทีมอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถดัน ฟาบินโญ่ กลับไปประจำตำแหน่งกองกลางเหมือนเดิม และทำให้ ติอาโก้ อัลกันตาร่า กับ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม มีอิสระในการเล่นเกมรุกมากยิ่งขึ้น
4. สามแข้งอันตรายที่ “หงส์แดง” ต้องระวังให้ดีๆ
สำหรับตอนนี้หลายคนอาจจับตามอง มาร์ติน โอเดการ์ด เพลย์เมกเกอร์ตัวยืม หรือ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้ากัปตันทีม ว่าจะสร้างความปั่นป่วนให้กับเกมรับของทีมเยือน เพราะฟอร์มในช่วงที่ผ่านมาร้อนแรงเหลือเกิน แต่จริงๆ แล้วยังมีสามแข้งที่ต้องบอกว่ามีสิทธิ์ทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” น้ำตาตกได้เลยทีเดียว
รายแรกก็คือ บูกาโย่ ซาก้า ซึ่งเด็กหนุ่มรายนี้อยู่ในช่วงฟอร์มกำลังขึ้นจริงๆ ที่สำคัญเขายังสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในเกมรุก โดยเฉพาะความรวดเร็วและความคล่องตัวของนักเตะเป็นอาวุธเด็ดที่ทำให้แผงแบ็กโฟร์ของ “เดอะ เร้ดส์” ต้องระมัดระวังตัวให้ดีๆ
ขณะที่อีกรายก็คือ คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายอนาคตไกล ซึ่งมีฟอร์มการเล่นที่คล้ายๆกับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ฟูลแบ็กเพื่อนร่วมชาติของเขา โดยนักเตะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในเกมรุกของ อาร์เซน่อล และยังเป็นนักเตะที่มีพละกำลังเหลือเฟือ พูดงานๆ นี่คือแข้งที่พร้อมวิ่งขึ้นเติมเกมบุก และลงมาเล่นเกมรับได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่มีอาการเหนื่อยล้าเสียทรงให้เห็น
ฟอร์มของ เทียร์นี่ย์ ทำให้เขาพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นขวัญใจสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” ไปแล้ว ที่สำคัญอย่างยิ่งคุณภาพของ ดาวเตะทีมชาติสกอตแลนด์ ทำให้ตอนนี้ อาร์เซน่อล ขาดไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมรุกหากไม่มีเขาทีมมักจะเล่นไม่ออกจริงๆ
คนสุดท้ายคงหนีไม่พ้น เอมิล สมิธ โรว์ เพราะผลงานของ “ไอ้ปืนใหญ่” ส่วนหนึ่งมาจากการปั้นเกมของกองกลางดาวรุ่งรายนี้ โดยเขามักจะคอยทำหน้าที่เชื่อมเกมให้กับทีม แน่นอนว่านักเตะถือเป็นแข้งที่มีพัฒนาการที่รวดเร็ว และเต็มไปด้วยไหวพริบปฏิภาณในการเล่น
แม้ว่า สมิธ โรว์ จะไม่ใช้นักเตะประเภทเพลย์เมกเกอร์ก็ตาม แต่เขาเปรียบเหมือนสะพานที่คอยเชื่อมเกมได้ในทุกๆ ตำแหน่ง นอกจากนี้นักเตะยังโดดเด่นในการหาพื้นที่ไม่ว่าจะตอนที่มีบอลหรือไม่มีก็ ตาม และยังวิ่งทะลุทะลวงหรือผ่านบอลไปยังพื้นที่ว่างได้ตลอด ฉะนั้นบอกเลยว่านี่คือนักเตะที่ฉลาดเป็นกรดทั้งๆ ที่อายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น
5. ชัยชนะเพื่อลุ้นอันดับท็อปโฟร์
การบุกไปเก็บสามคะแนนคือเป้าหมายหลักของ คล็อปป์ แอนด์โค. เพราะหากพวกเขาทำสำเร็จนั่นหมายถึงการทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 5 ในตารางลีก โดยจะมีแต้มไล่บี้ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ทีม อันดับ 4 แบบหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว
จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้แฟนบอล “หงส์แดง” ดูเหมือนจะทำใจว่าจะต้องพลาดอันดับท็อปโฟร์ในซีซั่นนี้ และต้องไปลุ้นคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกให้ได้ เพื่อโอกาสกลับมาโม่เกือกในเกมฟุตบอลถ้วยใบโตยุโรปในฤดูกาล 2021/2022