ซื้อแล้วแป้ก 7 แข้งไม่ปังที่เรอัลมาดริดทุ่มทุนคว้าตัว

ซื้อแล้วแป้ก 7 แข้งไม่ปังที่เรอัลมาดริดทุ่มทุนคว้าตัว

 

ซื้อแล้วแป้ก 7 แข้งไม่ปังที่เรอัลมาดริดทุ่มทุนคว้าตัว

ซื้อแล้วแป้ก 7 แข้งไม่ปังที่เรอัลมาดริดทุ่มทุนคว้าตัว เรอัล มาดริด ขึ้นชื่อว่าคือสโมสรที่ทุ่มทุนคว้าตัวนักฟุตบอลชื่อดังเข้าสู่ทีม โดยพวกเขาพร้อมที่จะประเคนเงินก้อนโตเพื่อแลกกับการได้มาซึ่งยอดผู้เล่นระดับสตาร์

ที่ผ่านมา ทุกๆ ตลาดช่วงซัมเมอร์ ยักษ์ใหญ่แห่ง ลาลีกา สร้างความฮือฮาในหลายๆ ดีล ย้อนอดีตไปนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000s นักเตะอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, ซีเนดีน ซีดาน, โรนัลโด้, เดวิด เบ็คแฮม ถูกดึงเข้ามาจนในช่วงนั้น “เรอัล มาดริด” ถูกขนานนามว่าคือ “ยุคกาลาคติกอส” คว้าสำเร็จมากมายมาประดับสโมสร

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เล่นอีกหลายรายเช่นกันที่ผลงานไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และถูกตีตราว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

 

– เอแด็น อาซาร์

อาจดูไม่ยุติธรรมเท่าไหร่หากจะนับ เอแด็น อาซาร์ อยู่ในลิสต์นี้ เพราะเจ้าตัวยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองมากนักนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เชลซี

ทว่าจนถึงตอนนี้ นับเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้วที่ อาซาร์ เข้ามาเป็นสมาชิก “ราชันชุดขาว” ซึ่งอย่างที่เราทราบดีกันว่าแข้งทีมชาติเบลเยี่ยมยังไม่แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่ากับเม็ดเงินจำนวน 130 ล้านปอนด์ที่ มาดริด มอบให้แก่ “สิงห์บลูส์”

 

ปัญหาใหญ่นอกเหนือจากเรื่องอาการบาดเจ็บ อาซาร์ โดนค่อนขอดว่ามีน้ำหนักที่เกินมาตรฐาน อีกทั้งยังเผชิญกับการติดไวรัสโควิด-19 จนอายุล่วงเลยเข้าสู่วัยเลข 3 ซึ่งเหลืออีกเวลาไม่มากที่จะโลดแล่นในช่วงพีคของอาชีพ

 

– ลูก้า โยวิช

หลังจากโชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างกับ ไอน์ทรัค แฟร้งเฟิร์ต ทั้งในศึกบุนเดสลีกา และยูโรปา ลีก หลายฝ่ายก็มองว่า กองหน้าทีมชาติเซอร์เบีย รายนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังคนต่อไป

ลูก้า โยวิช มีทั้งพละกำลังและความเร็ว เช่นเดียวกับเรื่องการทำประตูอันคมกริบ ทั้งหมดจึงดลใจให้ เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเงิน 54 ล้านปอนด์คว้าตัวเข้ามาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องกองหน้าที่ตอนนั้น คาริม เบนเซม่า ดูเหมือนจะหมดไฟในการเล่น

แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับดาวเตะวัย 23 ปีทำให้เขาไม่สามารถแจ้งเกิดกับทีมได้

เบนเซม่า กองหน้ามากประสบการณ์ชาวฝรั่งเศสกลับมาคืนชีพภายใต้การคุมทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ซึ่งทำให้โอกาสการลงเล่นของ โยวิช แทบจะหมดลง

และพอถึงคราวที่ โยวิช ได้รับโอกาส เขากลับทิ้งสัญชาตญาณทำประตูต่างจากตอนเล่นที่เมืองเบียร์สิ้นเชิง และตลอดขวบปีภายใต้ชุดสีขาว เจ้าตัวทำได้แค่ 2 ประตูจากการลงเล่น 32 เกม ก่อนจะถูกส่งกลับไป “อินทรีแดง-ดำ” อีกครั้งภายใต้ข้อสัญญายืมตัวเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การกลับมาครั้งนี้ยังไม่ได้ใกล้เคียงกับฟอร์มเมื่อคราวก่อนเลย

 

– กาก้า

หากถามว่ามีนักฟุตบอลคนไหนที่สง่างามมากที่สุดในโลกแล้วเคยค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด หนึ่งในคำตอบย่อมมีชื่อของ กาก้า อยู่ในนั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางประการทำให้ความสง่างามนั้นดูหมองลงภายหลังจากที่เขาย้ายเข้ามาอยู่กับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 56 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2009 ได้ไม่นาน

ความจริงที่เกิดขึ้นคือ กาก้า ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บขั้นรุนแรง ในปี 2010 เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่า ความพลิ้วไหว, ความเร็วที่เคยมี หายไปจากตัว กาก้า จนไม่ได้เป็นคนเดิมสมัยค้าแข้งกับ เอซี มิลาน

ถึงกระนั้น กาก้า มีชื่อค้าแข้งกับ “ราชันชุดขาว” ถึง 4 ฤดูกาล โดยลงสนามไป 120 นัด ทำได้ 29 ประตู และอีก 32 แอสซิสต์ ซึ่งมองจากตัวเลขก็ไม่ได้ดูด้อยอะไรเท่าไหร่

 

– ดานิโล่

ปี 2015 เรอัล มาดริด คว้า ดานิโล่ เพื่อเข้ามาเติมเต็มตำแหน่งฟูลแบ็กฝั่งขวาให้แข็งแกร่งมากขึ้น

ค่าตัวของแข้งแซมบ้า ที่ มาดริด ยอมจ่ายคือจำนวน 31 ล้านปอนด์ ซึ่งไม่ใช่เงินที่น้อยๆ แต่พวกเขาก็ยินดีเพื่อให้ได้มากซึ่งนักเตะที่ถูกยกย่องว่าเป็น ดานี่ อัลเวส คนต่อไป

อย่างไรก็ตาม ดานิโล่ แทบไม่ได้ลงสนามมากนักในซีซั่นแรกกับ มาดริด และที่น่าแปลกใจสุดๆ คือทุกเกมที่เขาลงเล่นจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ “ราชันชุดขาว”

เท่านั้นไม่พอ เข้าสู่ซีซั่นที่สอง ดานิโล่ ทำเข้าประตูตัวเองถึง 2 ครั้ง โดยหนึ่งในนั้นส่งผลให้ มาดริด ตกรอบ โกปา เดล เรย์ ด้วยน้ำมือของ เซลต้า บีโก้

เรื่องดีเรื่องเดียวที่ มาดริด ได้จาก ดานิโล่ ก็คือ ขนาดฟอร์มดาวเตะบราซิเลี่ยน ออกทะเลขนาดนี้ พวกเขายังได้เงินจากการขายเขาออกไปในราคาที่ไม่ขาดทุนมากนัก เมื่อ ดานิโล ย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 26.5 ล้านปอนด์

 

– อันโตนิโอ คาสซาโน่

สื่อที่ สเปน ดูไม่ค่อยโสภากับ อันโตนิโอ คาสซาโน่ มากนัก เพราะพวกเขาตั้งฉายาให้กับแข้งอิตาเลี่ยนรายนี้ว่า “Gordito” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “เจ้าอ้วนตัวน้อย”

ซึ่งถึงแม้ฟังแล้วดูจะเป็นการเรียกในเชิงติดตลก แต่อดีตแข้งโรม่าก็ไม่ค่อยชื่นชอบนักกับการใช้ชีวิตในเมือง มาดริด

คาสซาโน่ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 14 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 7 เดือน หลังจากโซ้ย นิวเทลล่า(Nutella) เป็นว่าเล่น และเมื่อนายใหญ่ชาติเดียวกันอย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ เข้ามาคุมทัพ เรอัล มาดริด คาสซาโน่ ก็ตกกระป๋องไปทันที

ตลอดสองฤดูกาลในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว คาสซาโน่ ลงเล่นไปแค่ 29 นัดเท่านั้น และทำได้เพียง 4 ประตู

 

– โจนาธาน วู้ดเกต

กองหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษ มักถูกเสนอชื่อติดโพลเบอร์ต้นๆ เป็นประจำในเรื่องที่ว่าใครคือนักเตะที่ เรอัล มาดริด เซ็นสัญญาได้ย่ำแย่ที่สุด

โจนาธาน วู้ดเกต ถูกดึงมาจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 13 ล้านปอนด์ และตลอดฤดูกาลแรกของเขาทำได้แค่การนั่งอยู่ข้างสนาม

และกว่าที่โอกาสแรกของเขามาถึงก็ต้องรอจนกระทั้งปีที่สองในเกมเจอกับ แอธเลติก บิลเบา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้ได้อีกแล้ว

นอกจากการทำเข้าประตูแบบน่าตลกแล้ว วู้ดเกต ยังมาถูกไล่ออกด้วยการโดนใบเหลืองสองใบจนในที่สุดปี 2006 วู้ดเกต เดินทางกลับมาค้าแข้งใน อังกฤษ อีกครั้งกับ มิดเดิ้ลสโบรส์ แบบยืมตัว ก่อนที่จะย้ายแบบถาวรในปีต่อมา

 

– เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์

อีกหนึ่งแข้งพรสวรรค์สูงที่ตกอับกับ เรอัล มาดริด จนในเวลาต่อมาเขาคือคนสำคัญที่พาชาติบ้านเกิดทะลุเข้าชิงฟุตบอลโลก 2010 ที่ แอฟริกาใต้ และคว้าทริปเปิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่กับ อินเตอร์ มิลาน

แต่กว่าจะถึงจุดนั้น เขาต้องเผชิญกับวิบากกรรมกับ มาดริด ในช่วงระหว่างปี 2007-2009

เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ และเป็นหนึ่งในสามนักเตะดัตช์ที่ย้ายเข้าสู่รั้ว เบร์นาเบว ร่วมกับ รอยส์ตัน เดรนเธ่ และ อาร์เยน ร็อบเบน

อย่างไรก็ตาม สไนจ์เดอร์ กลับไม่ใช่คนเดิมเหมือนตอนค้าแข้งที่ลีกฮอลแลนด์ และหลังจากเจอซีซั่นอันน่าผิดหวังในปีที่สอง สไนจ์เดอร์ ก็ถูกเลหลังให้กับ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งเป็นที่ที่เขาได้สัมผัสกับ แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ภายใต้ยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่

คาสิโนออนไลน์

คาสิโนออนไลน์