หลังผ่านบอลยุโรปแถมเจอร์เก้นคลอปป์ ใช้ชุดเดิม มาพรีเมียร์ลีก
หลังผ่านบอลยุโรปแถมเจอร์เก้นคลอปป์ เป็นเกมที่เข้าใจ ได้ว่าหลังผ่านบอลยุโรปแถม เจอร์เก้น คลอปป์ ไม่โรเตชั่น ใช้ชุดเดิมกระนั้นการมอนิเตอร์ อยู่ที่ว่า จากบอลชปล มาพรีเมียร์ลีกแทกติกไลป์ซิกกับ วูล์ฟ ก็แตกต่างกันการยิงประตู จากกลางสัปดาห์ก่อน ช่วยให้มั่นใจขึ้นมั้ย
หลังผ่านบอลยุโรปแถมเจอร์เก้นคลอปป์ ครึ่งแรก วูล์ฟไม่คม
นูโน ซานโต ปรับหนึ่งคนในแนวรับ เดนดองเกอร์ พักส่ง โบลีลงมายืนกับ ซาอิสและ โคดีรูปแบบ 3-4-3 ของนูโน กับทีมนักเตะที่ปรับตัวดีขึ้น เนเวา-มูตินโญ คู่กลาง วิงแบ๊ก เซเมโด และ จอห์นนีหน้าสาม วิลเลียน โชเซ , เนโต และ ตราโอเร การส่ง โบลี เพื่อลงมาประกบ ซาลาห์ โดยเฉพาะ
ห้านาทีแรกเด็กหงส์เกือบโดน น 2เบคเกอร์ รับบอลพลาด น.4 ตราโอเร จ่ายให้ เซเมโด หลอก รอบโบ ก่อนยิงติดเซฟ เบคเกอร์ ครึ่งแรกเป็นเกมที่วูล์ฟ เพรสแดนสองกับรับในแดนตัวเองแถมยังแก้เพรส ลิเวอร์พูลได้ดี แกะออกมาได้บ่อย ยังผลให้แดนกลางหงส์ใน 45 นาทีแรก ดูไม่ลงตัว
ติอาโก เสียบอล, เสียฟาวล์ บ่อย จีนี หายไป มีฟาบินโย ที่พอจะตัดบอลช่วยได้ แต่ก็ต่อไม่ติด เป็นเกมของวูล์ฟที่ครองบอลได้ดีกว่า ทั้งความแม่นในการรับส่งบอลและ เทคนิคส่วนตัวที่สำคัญสร้างโอกาสได้ดีหลายจังหวะ แต่ไม่คมเองโดยเฉพาะจังหวะยิงของ รูเบน เนเวส ในเขตโทษหลุดกรอบ
แต่งตัวนานไปนิด เลยเสียจังหวะ ทั้งที่ว่างคนเดียวลิเวอร์พูลใช้เวลา30 นาทียิงสามครั้ง ไม่เข้ากรอบ มีมาเน หลุดเดี่ยวหลอก ปาทริซิโอ ได้ แต่ไม่มีมุมยิงพอพลิกกลับมายิงก็ติดกองหลังวูล์ฟจริงๆ เกมก็ไม่มีอะไรน่าจบที่ 0-0 แล้วว่าต่อครึ่งหลัง แต่ช่วงทดเวลา จากลูกทุ่มของวูล์ฟที่พลาด
โดนแนตฟิลิปส์ ชิงโหม่งได้บอลถึง มาเน่จากนั้นการประสานงาน ของสามแนวรุกเกิดขึ้นมาเน-ซาลาห์-มาเน ให้โชต้ายิงเข้าที่เสาแรก 1-0 ถือว่าสร้างโอกาสไม่เยอะแต่ไม่เปลืองยิงในวินาทีก่อนหมดครึ่งแรกส่วนครึ่งหลัง คลอปป์ มีถอนต่ำ รับแบบ 4-4-2 ทิ้งโชตากับซาลาห์ไว้มาเนลงมาช่วยฝั่งรอบโบ
สัดส่วนการครองบอลวูล์ฟ จึงมีมากกว่าที่ยังเหมือนเดิม มีโอกาสแล้วจบไม่ลงทั้งโคดี, ฟาบิโอ ซิลวาเกมนี้ต่อเวลา 7 นาทีหลังจากโคดีชนกับปาทริซิโอจนร่วง มีการปฐมพยาบาลนานเกือบ 10 นาทีก่อนหามส่งร.พ.เท่ากับเกมนี้ใช้เวลา 107 นาที
หลังผ่านบอลยุโรปแถมเจอร์เก้นคลอปป์ บทสรุป
1. สามประสาน มาเน-ซาลาห์-โชต้า ได้ผล
จากเกมไลป์ซิกที่สามคนนี้มี combination play ต่อกัน ทำให้ทีมได้ประตู นัดนี้ก็ทำได้ จากสามคนนี้สองลูกในสองเกมต่อเนื่อง
2. วูล์ฟ ไม่ได้เป็นรอง
ทั้งเปอร์เซนต์ การครองบอลและวิธีการเล่น ใช้ได้เลยพวกเขาไม่ใช่ second best ในเกมแต่ปัญหาคือการโจมตีแดนสาม ไม่แม่นเองแล้วพอมีโอกาสยิงกลับ ” ไม่คม ” มี big chance แต่ทำไม่ได้ขนาดนาทีที่ 105 ฟาบิโอ ได้โหม่งระยะ 5 หลาโดนหัวไหล่
เป็น ราอูล นี่อาจหายเข้าก้นตาข่าย ละอีกจุดหนึ่งที่ดูไม่อันตรายเท่าไหร่คือ เนโต+ตราโอเรลิเวอร์พูลไม่เปิดพื้นที่ให้มาก ประสิทธิภาพเลยลดลง มีบ้างบางจังหวะที่กระชากหนีได้
3. ติอาโก ยังปรับตัวได้ไม่ดี
เกมนี้หลายจังหวะเข้าบอลไม่ทัน ช้าไปหนึ่งจังหวะ เป็นอีกเกมที่โดนเหลือง ส่งบอลเสียบ่อยดูไม่เหมือน ติอาโก ที่รู้จัก เล่นไปได้ 66 นาทีโดนเปลี่ยนออก
4. แนต-คาบัค “3คลีน ชีต”
คู่นี้เล่นด้วยกันเป็นเกมที่ 3แนต ลงตัวจริงในลีกนัดที่ 8คาบัคลงตัวจริงในลีกนัดที่ 5คู่นี้เล่นด้วยกันนัดชนะ เชฟฯยูฯ 2-0 ชนะไลป์ซิก 2-0 ชนะวูล์ฟ 1-0 คาบัค เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ พลาดน้อยลง แนต ฟิลิปส์ ต้องปรับปรุงเรื่อง “การออกบอล” เขาวางบอลยาวไม่แม่น ไม่เปิดออกก็โดนตัดบอลได้ นี่คือจุดที่ทำให้ คลอปป์ ไม่กล้าใช้ตั้งแต่แรก เพราะกองหลังของเขา ต้องเล่นเกมรุกได้ ไม่ใช่รับอย่างเดียว ถ้าได้ลงบ่อยๆน่าจะดีขึ้น
5. นำครึ่งแรกได้แล้ว
เหลือเชื่อนะครับที่ลิเวอร์พูล ไม่นำใครครึ่งแรกในปี 2021 นี่คือเกมที่สองต่อจากนัด บุกชนะสเปอร์ส 3-1 เมื่อ 28 ม.ค. ทุกรายการที่นำคู่แข่ง “ครึ่งแรก” ได้ กว่าจะได้ก็ทดเวลา แต่ถือว่าเป็นมิติที่ดี นับไปนับมา ผ่านมา17 เกมทุกถ้วยในปี 2021 พึ่งนำครึ่งแรกสองนัดเอง
6. ดีโอโก โชต้า คือความแตกต่าง
คงไม่มีคำถามอะไรมากสำหรับ การกลับมาลงสนามของเขา ในพรีเมียร์ลีกจำนวน 12นัดยิงไป 6ลูก รวมสามถ้วยลีก, ลีกคัพ, ชปล 20 นัดยิง 10ลูก และ 1 แอสซิสต์ ชัยชนะเกมนี้ คงต้องตามก่อนว่า ” ต่อเนื่องมั้ย ” นี่คือเกมนอกบ้านที่ชนะ และเป็นชัยชนะนัดสองในรอบ8 นัด
อันนี้คิดเฉพาะ บอลพรีเมียร์ลีก โดยที่ในแอนฟิลด์ แพ้อย่างเดียวเลย ดังนั้น ต้องดูฟอร์มว่าต่อเนื่อง คงเส้นคงวาหรือไม่ ที่เป็นเรื่องแง่บวกคือ ไม่เสียประตู 2 นัดติดต่อ สามประสานข้างหน้าเข้าขาจนยิง ได้สองนัดติดต่อเช่นกัน นัดต่อไป 3 เม.ย. ออกนอกบ้าน พบกับอาร์เซนอล ที่เริ่มดีขึ้น คงเป็นอีกเกมที่ต้องบอกว่าชั่วโมงนี้ ไม่มีอะไรง่ายอยู่แล้ว