เจาะ5ประเด็นอาร์เซน่อล สอย สเปอร์ส2-1ในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์
เจาะ5ประเด็นอาร์เซน่อล มิเกล อาร์เตต้า นายใหญ่อาร์เซน่อล ทำให้สาวก “ปืนใหญ่” หน้าบานหลังนำลูกทีมชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 2-1 ในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา
“เดอะ กันเนอร์ส” ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการตัดชื่อ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง จาก 11 ตัวจริงเนื่องจากทำผิดวินัย แต่กลายเป็นว่าพวกเขาทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งไล่บดขยี้ สเปอร์ส อย่างต่อเนื่อง แม้จะโดนนำไปก่อน แต่ก็สู้ไม่ถอยจนสุดท้ายได้ 3 คะแนนที่ต้องการ
ชัยชนะในเกมนี้ถือเป็นแรงกระตุ้นสำคัญในการตอกหน้า โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พูดปรากาสก่อนเกมว่าไม่สนใจมองทีมที่อยู่อันดับล่าง แม้ตอนนี้ อาร์เซน่อล จะยังคงอยู่ที่ 10 แต่ตามหลัง “ไก่เดือยทอง” แค่ 4 คะแนนเท่านั้น
1. ไร้ โอบาเมยอง ไม่ส่งผลกระทบ
อาร์เตต้า ทำให้สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” อ้าปากค้างเมื่อเปิดเผยรายชื่อ 11 ตัวจริงในเกมรับมือ สเปอร์ส โดยไร้ชื่อ โอบาเมยอง ดาวยิงตัวความหวัง โดยเหตุผลที่เขาทำแบบนี้เพราะนักเตะมีปัญหาเรื่องระเบียบวินัย
การที่นายใหญ่ชาวสแปนิชแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดในเรื่องนี้ ทำให้ได้ใจลูกทีมคนอื่นๆ เพราะนี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าต่อให้เป็นสตาร์ประจำทีมก็ไม่ได้มีสิทธิ์เหนือคนอื่น ฉะนั้นหากทำผิดก็ต้องโดนลงโทษ และสิ่งนี้ยิ่งทำให้แข้ง “ปืนใหญ่” เล่นด้วยสปิริตมากยิ่งขึ้นหลายเท่า
สำหรับการดร็อปป์ ดาวยิงทีมชาติกาบอง คงทำให้ มูรินโญ่ ไม่ได้คาดคิดเช่นกัน และเขาก็คงไม่ได้เตรียมแผนที่จะมารับมือกับเกมรุกที่ไร้ของ อาร์เซน่อล ที่ไร้ โอบาเมยอง ซึ่งจะเห็นได้ว่าแมตช์นี้เจ้าบ้านเปิดเกมบุกเข้าใส่ได้อย่างต่อเนื่องในครึ่งแรก และมีโอกาสได้สองประตูด้วยซ้ำแต่ดันแม่นคานแม่นเสาไปหน่อย
หลังจบเกมนี้พวกนักวิจารณ์และบรรดาเกรียนคีย์บอร์ดที่หวังจะถล่ม อาร์เตต้า จากการตัดชื่อ โอบาเมยอง ในเกมดาร์บี้แมตช์ที่สำคัญแบบนี้ คงต้องพับแผนไปโดยปริยาย เพราะการที่ อาร์เซน่อล ไม่มีหัวหอกกัปตันทีม พวกเขาก็ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง และเหนือกว่าคู่อริร่วมเมืองทั้งเกมรับและเกมรุก
2. ลาเมล่า สร้างเรื่องสุดยอดและน่าผิดหวัง
เอริค ลาเมล่า ทำให้แฟนบอลได้มีความสุขกับลีลาลูกหนังที่น่าเหลือเชื่อเมื่อเขาโชว์การไขว้ขายิงประตูอย่างเหนือชั้นให้ทัพ “ไก่เดือยทอง” ขึ้นนำ อาร์เซน่อล หลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน ซน ฮึง-มิน ที่ได้รับบาดเจ็บในนาทีที่ 19
จังหวะการยิงประตูดังกล่าวไม่ใช่ครั้งแรกที่ ลาเมล่า เคยทำได้ เพราะเขาโชว์ลีลาแบบนี้มาแล้ว เมื่อเดือนตุลาคม 2014 หลังจากที่ลงมาเล่นแทน แกเร็ธ เบล ในแมตช์ปะทะกับ แอสเตราส ทริโปลิส ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก และจัดการไขว้ขายิงบริเวณกรอบเขตโทษ ซึ่งทำเอาทั้งคู่แข่งและเพื่อนร่วมทีมตะลึงกันไปเลย
นอกจากนี้นับตั้งแต่ปี 2012 ลาเมล่า ยังกลายเป็นนักเตะ สเปอร์ส คนแรกที่ยิงประตูและโดนไล่ออกในเกมพรีเมียร์ลีก ต่อจาก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่เคยทำเอาไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 ในเกมที่ปะทะกับ อาเซน่อล
ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะเขาเป็นผู้เล่นสำรองคนที่ 5 ที่ยิงประตูและโดนไล่ออกในเกมลีกต่อจาก เดวิด ลี (เชลซี พบ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ปี 1993), บ็อบบ้ ซาโมร่า (เวสต์แฮม พบ ฟูแล่ม ปี 2007), อิวาน คลาสนิค (โบลตัน พบ สโต๊ค ปี 2010), ฮัล ร็อบสัน-คานู (เวสต์บรอม พบ เบิร์นลี่ย์ ปี 2017)
3. โอเดการ์ด ยิ่งเล่นยิ่งพัฒนา
มาร์ติน โอเดการ์ด โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นนับตั้งแต่ที่ย้ายมาเล่นแบบยืมตัวจาก เรอัล มาดริด ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยนักเตะสามารถปรับตัวกับการเล่นในอังกฤษได้ อย่างรวดเร็ว และเป็นตัวหลักของ อาร์เตต้า มาตลอด
ผลงานของ โอเดการ์ด เริ่มเข้าตาแฟนบอลอาร์เซน่อลอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่เขายังไม่สามารถทำได้ก็คือการยิงประตูในลีก และสำหรับจังหวะซัดไกลตีเสมอให้ทีม แม้จะเป็นการแฉลบกองหลัง สเปอร์ส แต่ก็เป็นประตูแรกของเขาในพรีเมียร์ลีกที่เล่นให้ อาร์เซน่อล
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน โอเดการ์ด ก็เพิ่งจะโชว์ความสุดยอดในจังหวะยิงไกลเกมที่ “เดอะ กันเนอร์ส” ไล่ถลุง โอลิมเปียกอส ในศึกยูโรปา ลีก มาแล้ว ฉะนั้นผลงานในเวลานี้ยิ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับนักเตะมากยิ่งขึ้น
ผลงานแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ โอเดการ์ด จะได้รับเลือกเป็นกัปตันทีมชาตินอร์เวย์คนใหม่ ในวัยเพียง 22 ปี แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือนักเตะย้ายมาแบบยืมตัวโดยที่ไม่มีออปชั่นซื้อขาด ดังนั้นเมื่อจบฤดูกาลนี้ เขาต้องกลับไปยัง เรอัล มาดริด ฉะนั้นในช่วงซัมเมอร์นี้บอร์ดบริหารต้องคิดทบทวนให้ดีๆ ว่าเขาจะยอมเสียเงินเพื่อนักเตะชั้นยอดแบบนี้ไหม
4. มูรินโญ่ มองล่างบ้างก็ได้
ก่อนหน้าที่จะทำศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์, โชเซ่ มูรินโญ่ ได้ทิ้งวาทะที่ทำให้แฟนบอลอาร์เซน่อลเคืองสุดๆ นั่นก็คือการที่เขาไม่แยแสที่จะมองทีมที่มีอันดับอยู่ต่ำกว่าพวกเขา เพราะเป้าหมายของ สเปอร์ส คือการไล่บี้ทีมที่อยู่เหนือกว่าเพื่อลุ้นอันดับท็อปโฟร์
คำพูดดังกล่าวน่าจะเป็นหนึ่งในแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้แข้ง “ปืนใหญ่” งัดฟอร์มเก่งออกมา เพราะตลอดทั้งเกมจะเห็นได้ชัดว่าลูกทีมของอาร์เตต้า วิ่งสู้ฟัดไล่บี้ขยี้ทีมเยือนแบบไม่ให้มีโอกาสได้สร้างสรรค์เกม
ขณะเดียวกันอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ “ไก่เดือยทอง” ฟอร์มสะดุดก็คงหนีไม่พ้นการที่ทีมต้องเสีย ซน ฮึง-มิน ไปตั้งแต่ช่วงต้นเกม ทำให้แนวรุกของทีมไม่สามารถขู่เกมรับ อาร์เซน่อล ได้มากนัก เพราะนอกจากจังหวะยิงประตูของ ลาเมล่า แล้ว ช่วงที่เหลืออยู่พวกเขาก็ไม่ได้กดดันอะไรเจ้าบ้านเลย
กว่าที่ทีมจะตั้งสติได้ก็ต้องโดนยิงนำ 2-1 โดยหลังจากนั้น สเปอร์ส ก็เร่งไม่ขึ้นเพราะทีมตกเป็นรองทั้งสกอร์ และตัวผู้เล่น ขณะที่ อาร์เซน่อล เมื่อได้ประตูนำทุกอย่างก็เข้าทาง พวกเขามีเกมรับที่เหนียวแน่นอยู่แล้ว
ถ้าไม่ได้จังหวะซัดฟรีคิกชนเสาของ แฮร์รี่ เคน นับตั้งแต่ที่โดนนำ สเปอร์ส ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยจริงๆ
5. ลุ้นท็อปโฟร์พอจะมีหวังไหม
ตอนนี้ อาร์เซน่อล รั้งอยู่อันดับ 10 มี 41 คะแนนห่างจาก “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี 10 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ฉะนั้นโอกาสที่พวกเขาจะเร่งเครื่องในช่วงที่เหลืออยู่ได้หรือไม่ งานนี้หากมองจากความเป็นจริงบอกเลยว่ายากมาก
อย่างไรก็ตามในวงการฟุตบอลทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ยิ่งในฤดูกาลนี้ถือเป็นซีซั่นที่สุดแปลกประหลาดในหลายๆ เรื่อง ทำให้สาวก “เดอะ กันเนอร์ส” อาจจะมีแอบคิดถึงความเป็นไปได้ในทางทฤษฏี แม้ในทางปฏิบัติค่อนข้างจะยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาก็ตาม
กระนั้น อาร์เซน่อล ก็ยังมีอีกทางที่จะทำให้พวกเขาได้ตั๋วไปเล่นศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นก็คือการพยายามคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ให้ได้ เพราะในการชิงถ้วยใบเล็กยุโรป โอกาสที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จมีความเป็นไปได้มากกว่าการลุ้นท็อปโฟร์
เจาะ5ประเด็นอาร์เซน่อล สอย สเปอร์ส2-1ในศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์